1. เลือกดูสินค้าที่ต้องการ

เราจะต้องเลือกเฉพาะสินค้าที่ทราบมาแล้วว่า เป็นสินค้าขายดี ซึ่งเทคนิคง่ายอย่างหนึ่งคือ
การที่เราไปดูจากฟังค์ชั่น Best Sellings ใน Amazon หรือเข้าไปดูตามเว็บไซต์ขายสินค้า
อื่นๆเช่น Yahoo! Shoppping เป็นต้น

2. ตรวจสอบราคาสินค้า ว่าราคาใน Amazon ถูกหรือแพงกว่าท้องตลาด

สำคัญมาก**เพราะถ้าหากว่า สินค้าใน Amazon ขายแพงกว่าทั่วไป คนจำนวนมาก
ย่อมจะไปซื้อสินค้าจากเว็บไซต์อื่นๆแทน Amazon ดังนั้นต่อให้เราทำโฆษณายังไงก็
ขายได้ยากค่ะ

แต่ถ้าหากว่าสินค้าชิ้นไหนที่ Amazon ขายต่ำกว่าท้องตลอด โอกาสในการที่คนจะวิ่งมา
ซื้อสินค้าจากที่ Amazon ก็แทบจะเป็น 100% เลยล่ะค่ะ

3. ดูรายละเอียดสินค้าว่า มีโอกาสขายได้มากน้อยแค่ไหน

เราต้องทำการวิเคราะห์รายละเอียดของแต่ละสินค้าให้ดี เพราะความแตกต่างเล็กๆน้อยๆ
อาจจะนำมาซึ่งความสำเร็จได้ค่ะ เช่น สินค้าที่เราจะเลือกทำโฆษณา ควรจะเป็นสินค้า
ที่มีการจัดส่งฟรี (Free Shipping) มีสินค้าอยู่ในโกดัง (In Stock) เป็นต้น

4. ตรวจสอบความต้องการในการซื้อสินค้า

หลังจากเราเลือกสินค้าได้แล้ว เราก็ต้องดูด้วยว่า ความต้องการในตลาดตอนนี้มีมากน้อย
แค่ไหน และแนวโน้มในอนาคตจะมีมากแค่ไหน เพื่อที่เราจะได้วางแผนในการทำ
โฆษณาได้อย่างถูกต้องค่ะ

5. คำนวณ รายได้ รายจ่าย และ กำไร ในการโฆษณาสินค้า

ธุรกิจที่ดี คือ ธุรกิจที่รู้แต่แรกแล้วว่าจะได้กำไร เช่นเดียวกันค่ะ ก่อนที่จะทำโฆษณา
สินค้าชิ้นไหนก็ตาม เราควรจะต้องทำการคำนวณรายละเอียดให้เรียบร้อยก่อนว่า
มีโอกาสได้กำไรมากน้อยแค่ไหน สินค้าชิ้นไหนที่มีโอกาสทำกำไรมาก เราก็ควรจะ
นำไปทำโฆษณาก่อนค่ะ

ทั้ง 5 ข้อก็เป็นขั้นตอนง่ายๆที่คุณสามารถนำไปใช้ได้เลยล่ะค่ะ ซึ่งเราเองก็ได้ใช้มาแล้ว
และได้ผลลัพธ์ที่ดีเป็นอย่างมาก เพราะอย่างน้อยๆ ก็ทำให้ธุรกิจเป็นระบบขึ้น
รู้ว่าจะต้องทำอะไรก่อน อะไรหลัง ดังนั้นสิ่งที่ตามมาก็คือ เวลาว่างที่มากขึ้น และ
กำไรที่มากขึ้น

ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้เราก็ได้รับมาจากการเรียนรู้ใน Amazon eClass ของคุณตราวุทธิ์
(ข้อมูลจาก www.thaisem.com เขียนโดย คุณ jkmommam )
จริงๆผมได้ปล่อยต้นฉบับของบทความนี้ใน Blog ผมไป 2 วันแล้วนะเนี่ย แต่คนเข้า blog ยังน้อยอยู่กลัวว่าความรู้จะแจกจ่ายไม่ทั่วถึง เลยเอามา post ไว้หลายๆที่หน่อย เนื่องจากมีหลายท่านส่งคำถามเข้ามาว่าทำอย่างไรถึงจะขึ้นไปอยู่หน้าหนึ่งให้ ได้ สำหรับผมแล้วก็ไม่ได้ทำแตกต่างอะไรไปจากเพื่อน คือทำการเขียน Blog แล้วทำ Link กลับเข้าไปหาร้าน aStore ของเรา แต่สิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้เราพุ่งพงาดไปหน้า 1 ได้นั้นส่วนสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการจัดหน้าร้านอย่างถูกหลัก Search Engine Optimization และถูกหลักจิตวิทยา ซึ่งทั้งสองอย่างเปรียบเสมือนศาสตร์ และศิลป์ หากขาดอย่างใดไปอย่างหนึ่งแล้วย่อมทำให้ลูกค้าซึ่งมีจิตใจแปรปรวน อาจจะหนีออกไปจากหน้าร้าน aStore เราอย่างรวดเร็ว ลองนึกภาพง่ายๆ ครับว่าระหว่างร้านโชว์ห่วย กับร้าน 7-Eleven เราเลือกที่จะเข้าไปร้านไหน (ตอบตามความจริงนะครับ อย่าพึ่งเอาเลือดรักชาติมาเกี่ยวข้อง) ผมเชื่อว่ากว่า 90% ต้องตอบว่า 7-Eleven แน่นอน แต่ทีนี้เพื่อนลองมาสังเกตุตัวเองดูครับว่าทำไมถึงเลือกที่จะเข้าร้าน 7-Eleven มากกว่าที่จะเข้าร้านทั่วไป สำหรับผมแล้วสิ่งที่ทำให้ผมเลือกที่จะเข้าร้าน 7-Eleven มาจาก 7 ประการหลักต่อไปนี้

จัดหน้าร้านอย่าง 7-Eleven
1. จัดร้านสะอาด ไม่รกเลอะเทอะ
2. หาของง่าย จัดของเป็นหมวดหมู่
3. มีของครบ อยากได้อะไรเข้าไปได้เกือบหมด
4. มีป้ายสินค้าลดราคาแปะเห็นเด่นชัด
5. ดูร้านน่าเชื่อถือ เปิดไฟสว่าง
6. พนักงานขายเป็นผู้หญิง เทียบกับร้านโชว์ห่วยแล้วมักจะเป็นอาแปะ หรือป้า แก่ๆ
7. บริการรวดเร็วแป้ปเดียวเสร็จ

แล้ว ร้าน aStore ของเราหละครับ จะเอาสิ่งเหล่านี้มาประยุกต์ใด้ไหม ทำให้ถูกใจทั้งคน และหุ่นยนต์ (robot) ความจริงแล้ว Google เองก็พยายามที่จะทำให้ robot ของเขามีความรู้สึกนึกคิดเหมือนกับมนุษย์ หากเราทำให้มนุษย์ถูกใจแล้ว แน่นอนว่า robot ก็มีแนวโน้มที่จะถูกใจด้วย เพราะ robot ต้องปรับตัวเข้าหามนุษย์ ไม่ใช่มนุษย์ปรับตัวเขาหา robot สำหรับร้าน aStore ของผมจะให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องการจัดหน้าร้านเป็นอย่างมาก เพราะมันจะช่วยให้เราขายของได้ง่ายขึ้น หรือแม้แต่ทำให้เราขายของแพงได้มากขึ้นด้วย ลองมาดูรายละเอียดนะครับว่าผมยึดหลักอะไรจาก 7-Eleven มาช่วยทำให้ผมทำร้าน

1. ดูสะอาดตาสบายใจไว้ก่อน - theme ดูสะอาดตา ไม่รกเลอะเทอะ รูปไม่เยอะจนเกินไป จะทำให้ลูกค้า focus ไปยังตัวสินค้าได้ง่ายขึ้น เพราะหากว่ามีอะไรไม่รู้เต็มหน้าจอไปหมด อาจทำให้ลูกค้ามึนหัวได้

2. จัดหมวดให้ดี ทุกอย่างจะดีเอง - แยกแยะเป็นหมวดหมู่อย่างชัดเจน นำ keyword มาใช้เป็นชื่อ Category เขาค้นด้วย keyword ให้จัดประเภทตาม keyword ยกตัวอย่างให้เห็นได้ชัด หากเราเอา keyword เป็น “refurbish garmin 760 gps” แสดงว่าเขามีความรู้ทั้งเรื่องรุ่นของ gps และเขาต้องการอยากได้ refurbish ดังนั้นเราก็ควรจัดหมวดหมู่เป็น New กับ Refurbish และใน 2 หมวดใหญ่ก็ย่อยลงไปแต่ละรุ่นอีก

3. เกินดีกว่าขาด - แม้ว่าเขาจะต้องการเพียง Garmin 760 GPS ก็จริง แต่ใครจะรู้ว่าอยู่ๆเขานึกอยากได้รุ่นอื่นขึ้นมา แต่ถ้าร้านเราไม่มี ก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะออกจากร้านเราออกไป หรือแม้แต่พวก Accessories เราก็ควรจัดหมวดหมู่ให้เขาเลือกได้อย่างสะดวก

4. เพิ่มพลังดึงดูดด้วยของลดราคา - แม้ว่าเขาจะต้องการ garmin 760 gps เท่านั้น แต่หากเป็นผมแล้ว ผมจะจัดสินค้า promotion ที่มีราคาสูงกว่า หรือใกล้เคียงไว้ข้างๆเสมอ (อย่าเอาของถูกกว่าไว้นะ แล้วจะเสียใจ)

5. สีของร้านสว่างได้เปรียบ - หากใครเคยได้ยินเรื่องพลังของสีกับการตัดสินใจซื้อสินค้า จะรู้ว่าสีที่กระตุ้นให้คนตัดสินใจซื้อสินค้าได้ดีที่สุดคือ สีแดง จึงไม่แปลกที่เขาจะนำคำว่า SALE หรือว่าเชิญเชื่อต่างๆมาทำเป็นสีแดง แต่โดยรวมแล้วสีโทนอ่อนจะไม่ทำให้คนรู้สึกรำคาญ ดังนั้นแล้วเราเลือกสีโทนอ่อน ไว้ และเน้นสีแดงเป็นจุดเด่นๆ จะทำให้ร้านเรามีพลังเพิ่มขึ้นไม่น้อย

6. รูปสาวสวยช่วยได้เยอะ - เขาว่ากันว่าถ้าเว็บไหนมีรูปคนอยู่จะช่วยเพิ่มน่าเชื่อถือให้แก่เว็บนั้น เป็นอย่างมาก ยิ่งรูปผู้หญิงสวยๆด้วยแล้วมันจะยิ่งกระตุ้นให้คนมองรูป เอ้ยยยยย.. กระตุ้นให้เขารู้สึกว่าเขากำลังจะซื้อของกับร้านที่มีตัวตนจริงๆอยู่

7. เว็บต้องโหลดเร็วไว้ก่อน - ความจริงแล้วปัญหานี้ไม่ค่อยพบกับ aStore สักเท่าไร แต่มันก็อาจจะเป็นไปได้ถ้าเรานำรูปขึ้นไปบน Server ที่อยู่ในประเทศไทยซึ่ง คนจากต่างประเทศกว่าจะดึงรูปแสดงได้บางครั้งก็ต้องใช้เวลานานพอดู ดังนั้นขนาดของรูปก็ต้องไม่ใหญ่จนเกินที่จะรับได้ครับ

จากแนวคิดที่ ผมบอกไปข้างต้นคิดว่าพอจะช่วยให้เป็นข้อคิดในการจัดหน้า ร้านอย่างถูกวิธีให้ทุกท่านนะครับ แต่ทุกอย่างก็ยังเป็นเพียงแนวคิดที่ผมทดลองและค้นพบเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนอาจจะมีประสบการณ์ที่แตกต่างดังนั้นแล้วจึงอยากจะให้ทุกท่านได้ ทดลองเองก่อนที่จะเชื่อนะครับ

ต้นฉบับ : สร้างร้าน aStore อย่างไรให้ถูกใจคน และหุ่นยนต์

(ข้อมูลจาก www.thaisem.com เขียนโดย คุณ nonezero )

การโปรโมท astore

  • ผมลองทดสอบวิธีทำ Link เข้า aStore มาเกือบทุกแบบแล้วครับ ทั้งแนวทางที่ถูกต้อง และแนวทางที่ผิด
แน่นอนว่าทั้งสองแนวทางสามารถทำให้ aStore สามารถขึ้นไปอยู่ที่หน้าแรกได้ แต่มันต้องประกอบกับ ปัจจัยอื่นๆ
ที่จะทำให้เว็บเราสามารถขึ้นไปได้ง่ายด้วยนะครับ ลองหาอ่านดูบทความเก่าๆ มีคนถามบ่อยมาก

แต่เห็นถามเรื่อง Link ผมจะบอกแค่เรื่อง link เป็นพิเศษแล้วกันนะครับ คือว่าการหา link ทำได้หลายแบบมาก เช่น
0. submit directory - วิธีนี้ผมใส่ไว้อันดับ 0 เพราะมันแทบจะไม่ไ้ด้ผลเลยครับ เลิกคิดได้เลยว่าจะทำให้ aStore ติดได้ด้วยการ submit เว็บ Directory ธรรมดาทั่วไป
1. วางไว้ที่ลายเซ็น - ซึ่งปัจจุบันมีคนวางไว้เต็มไปหมด ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่ดีใช้ได้ สำหรับบอร์ดที่มีคนเข้าเยอะๆ อย่างที่ SEM.or.th, ThaiSEM.com
2. วางไว้ในกระทู้ที่เขาอนุญาตให้วาง - ผมเห็นใน SEM.or.th ก็ยังมีให้วางอยู่และมีคนวางอยู่เยอะมากๆ ซึ่งก็ถือว่าคุณภาพพอใช้ได้ครับ
3. วางไว้ตามเว็บชาวบ้าน - อันนี้มีทั้งแบบที่ได้รับอนุญาต และเราแอบวาง หากเราเลือกเว็บที่ดีมีคุณภาพเราก็จะดัน aStore ขึ้นได้อย่างง่าย
4. วางไว้ที่เว็บของตัวเอง - สำหรับผมวิธีนี้ดีที่สุด ไม่ต้องไปพึ่งพาใคร ยิ่งถ้าเรามีเว็บคุณภาพเป็นของตัวเองแล้วยิ่งสบายเข้าไปใหญ่ จะดัน aStore ร้านไหนก็ขึ้นอันดับง่าย
5. ซื้อ text ads - วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่มันใจแล้วว่าร้านนั้นสามารถทำเงินให้เราได้ เพราะราคาค่าเช่าพื้นที่โฆษณาเว็บที่ดีๆ ราคาค่อนข้างสูงตกเฉลี่ยเดือนละ 1000 บาท ดังนั้นถ้าเราไม่มั่นใจจริงอย่าพึ่งใช้วิธีนี้เพราะมันจะทำให้เราเสียเงิน โดยใช่เหตุ

  • แนะนำเกี่ยวกับเพิ่ม BL น่ะครับ ไม่รู้ว่ามีผลมากน้อยแค่ไหน แต่สำหรับผมคิดว่าเวิร์คนะ

คือ การสมัคร Google Alerts เป็นบริการฟรีๆของการกูเกิล เราแค่มีแอดเค้ากูเกิลก็ใช้ได้แล้วครับ (อันนี้เครดิตพี่R@Yครับ แต่พี่เค้าไว้รับข่าว) ล็อคอินเข้าไปในกูเกิล ใน my account ตามรูปน่ะครับ



แล้ว ใส่คียร์เวิร์ดหรือ อะไรที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของคุณก็ได้ครับ แล้วเลือกรับเฉพาะ Blog ก็พอครับ แค่นี้เมื่อไหร่ที่มีบล็อคเกี่ยวกับคีย์เวิร์ดที่เรากำหนดไว้ มันจะส่งเมล์มาบอกเราครับ



เพียง แค่นี้เราก็มีที่ๆเราจะใส่คอมเม้น พร้อมแนบลิ้งค์เล็กๆของเราไว้ โดยที่เราไม่ต้องดิ้นรนหาเลย แถมเกี่ยวข้องกับสินค้าที่เราต้องการโปรโมทอีกด้วย แต่บางทีต้องรอเค้า approve comment ของเราอีกทีนะครับ

แต่ขอแค่พี่ๆและเพื่อนๆ บางทีอ่านบทความของเจ้าของบล็อคบ้าง ลงความเห็นเป็นกำลังใจเจ้าของสถานที่ ไม่ควรตั้งนานตั้งตาจะใส่ลิ้งค์อย่างเดียวน่ะครับ นอกจากนี้ พี่ๆอาจไว้รับข่าวคราวอะไรก็ได้ครับ ถ้าแบบนั้นควรเลือกรับเป็นเว็บไซด์จะเหมาะสมกว่า

จ.จื้อ

  • 100 free blog ====
100 aStore <=====> 1 Web site ตามนี้ น่าจะได้ผลคับ
100 Lens Squidoo ====

ความจริงแล้วอยากทำให้ได้ตามนี่คับ กำลังทำอยู่

100 free blog ====
100 aStore <=====> 10 aaapro โดเมนรอง <=====> 1 aaapro หลัก
100 Lens Squidoo ====

ลิงค์วนหากัน สร้างเครือข่ายเองคับ

ส่วนการเพิ่ม traffic bot
Sociale Bookmark =====>socialmarker.com ช่วยได้เยอะ
comment blog =======> PR Backlink Generator โหลด เอาในนี้ได้คับ โปรแกมใช้ง่าย

  • วางไว้ที่เว็บของตัวเอง - สำหรับผมวิธีนี้ดีที่สุด ไม่ต้องไปพึ่งพาใคร ยิ่งถ้าเรามีเว็บคุณภาพเป็นของตัวเองแล้วยิ่งสบายเข้าไปใหญ่ จะดัน aStore ร้านไหนก็ขึ้นอันดับง่าย

(ข้อมูลจาก www.thaisem.com เขียนโดย คุณ nonezero และคุณ จ.จื้อ คุณ joe-un)

Blogger Templates by Blog Forum